
5เหตุผลแมนซิตี้จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ลีกได้ในซีซั่นหน้า
หากย้อนไปก่อนหน้านี้ เป็ป เคยนำ แมนฯ ซิตี้ ครองแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาได้สองสมัยติดในฤดูกาล 2017/18 และ 2018/19 ก่อนจะต้องผิดหวังในซีซั่นนี้
อย่างไรก็ตามฤดูกาลหน้าก็เป็นงานหนักที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะป้องกันแชมป์เอาไว้ให้ได้ และนี่คือ 5 เหตุผลว่าทำไม แมนฯ ซิตี้ ถึงจะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์กลับมาได้อีกครั้ง
โดนแบนเกมยุโรป
สืบเนื่องจากการที่ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสที่จะโดน สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) สั่งห้ามลงแข่งขันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือรายการอื่นๆ ในเวทียุโรปจำนวน 2 ฤดูกาล หลังจากพวกเขาทำความผิดอย่างรุนแรงต่อกฎควบคุมการเงิน หรือ “ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์” จากการปลอมแปลงรายได้ในบัญชีระหว่างปี 2012-16 เพื่อที่จะได้ไม่โดนลงโทษจากกฎควบคุมการเงิน หรืออย่างน้อยจะได้โดนลงดาบสถานเบา โดยโทษแบนดังกล่าวจะมีผลในซีซั่น 2020/21 กับ 2021/22 ซึ่งในตอนนี้กำลังรอคำชี้ขาดจาก ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก หรือซีเอเอส

อย่างไรก็ตามหากคำตัดสินออกมาเช่นนี้ก็มีข่าวลือออกมาว่า “เรือใบสีฟ้า” มีโอกาสสูงที่จะเสียนักเตะชั้นนำบางรายไปที่ต้องการไปเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า
กระนั้นก็ดีสุดท้ายแล้วเชื่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสแปนิชอาจจะเกลี้ยกล่อมให้แข้งตัวหลักอยู่ต่อไปได้อย่างน้อยอีกหนึ่งฤดูกาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อทีมที่จะหันมาโฟกัสในพรีเมียร์ลีกได้แบบเต็มๆ ซึ่งจุดนี้เองจะทำให้ได้เปรียบ ลิเวอร์พูล พอสมควร
เสริมแข้งใหม่
หากจะพูดถึงจุดอ่อนของ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้คงหนีไม่พ้นแนวรับที่ดูหละหลวมมากกว่าเดิม นับตั้งแต่เสีย แว็งซ็องต์ ก็องปานี ซึ่งทำให้ถึงตอนนี้พวกเขาแพ้ไปแล้ว 8 เกม พร้อมเป็นตัวเลขที่มากกว่าสองฤดูกาลก่อนรวมกันเสียอีก
นอกจาก ก็องปานี จะมีทั้งความแข็งแกร่ง และความดุดันตามแบบฉบับกองหลังที่ดีแล้ว เขายังมีความเป็นผู้นำสูงที่คอยช่วยพยุงเกมรับ ซึ่งยากที่จะหาใครมาทดแทน แถมในฤดูกาลนี้ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ดาวเตะตัวความหวังใหม่ก็มาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน และแข้งรายอื่นๆอย่าง นิโคลัส โอตาเมนดี้ หรือ จอห์น สโตนส์ ก็ไม่สามารถทดแทนในระยะยาวได้เลย

ช่วงที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ตกเป็นข่าวกับกองหลังชื่อดังมากมายทั้ง คาลิดู คูลิบาลี่ (นาโปลี), มิลาน สคริเนียร์ (อินเตอร์ มิลาน), ดาโยต์ อูปาเมคาโน่ (ไลป์ซิก), รูเบน ดิอาส (เบนฟิก้า) และ ชักลาร์ โซยุนชู (เลสเตอร์ ซิตี้) ซึ่งล้วนแล้วต่างเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากพวกเขาสามารถเซ็นสัญญามาได้สักหนึ่งรายอาจจะมาแก้ไขจุดอ่อนของทีมให้ดีขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังต้องเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งแบ็กซ้ายหลังจาก เบนฌาแม็ง เมนดี้ ฟอร์มดร็อปลงไปหลังโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานหนัก โดยพวกเขาตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ เบน ชิลเวลล์ จาก เลสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่แนวรุกนั้นก็มีข่าวว่าต้องการคว้าสองปีกดาวรุ่งอย่าง แฟร์ราน ตอร์เรส (บาเลนเซีย) และ เลออน ไบลีย์ (เลเวอร์คูเซ่น) เข้ามาเป็นตัวแทนของ ลีรอย ซาเน่ ที่จะย้ายไปอยู่ บาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาลหน้า
ดาวรุ่งพร้อมกลายเป็นกำลังหลัก
แม้ แมนฯ ซิตี้ จะเต็มไปด้วยเหล่าแข้งซูเปอร์สตาร์มากมาย แต่ทีมชุดนี้ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็มีผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนที่ได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้นในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะ ฟิล โฟเด้น มิดฟิลด์ชาวอังกฤษที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทกับทีมชุดใหญ่กว่าฤดูกาลที่ผ่านๆมา

ดาวเตะวัย 20 ปี ตอบแทนความไว้วางใจของกุนซือชาวสเปนได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเกมที่เขาสร้างความประทับใจมากที่สุดนั้นคือเกมที่ยิงสองประตูช่วยทีมถล่ม เบิร์นลีย์ 5-0 จนคว้ารางวัลแมนด์ ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง และคาดว่าเจ้าหนูรายนี้จะมาทดแทนการขาดหายไปของ ดาบิด ซิลบา แข้งมากประสบการณ์ที่ประกาศอำลาทีมหลังจบซีซั่นนี้
นอกจากนี้ยังมี เอริค การ์เซีย กองหลังดาวรุ่งเลือดกระทิงที่ในฤดูกาลนี้ได้ลงเล่น 7 เกมในลีก และทำผลงานได้น่าประทับใจ ซึ่งในซีซั่นหน้าคาดว่าจะมีบทบาทช่วยทีมมากขึ้นเพื่อมาทดแทน นิโคลัส โอตาเมนดี้ หรือ จอห์น สโตนส์ ที่อาจมีใครคนใดคนหนึ่งย้ายออกไป
ความเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ฤดูกาลนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เป๊ป ล้มเหลวในการคว้าแชมป์ลีกตลอดอาชีพการคุมทีมของเขา โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในฤดูกาล 2011/12 สมัยคุม บาร์เซโลน่า เขาพลาดเสียแชมป์ให้กับ เรอัล มาดริด หลังก่อนหน้านั้นพาทีมเถลิงแชมป์มา 3 สมัยติดต่อกัน

ก่อนจะย้ายมาคุม บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2013 และพาทีมคว้าแชมป์ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ส่วนกับ แมนฯ ซิตี้ นั้น เป๊ป เริ่มต้นพาทีมจบอันดับ 3 ในปีแรก โดยเป็น เชลซี ที่ได้แชมป์ฤดูกาลดังกล่าว แต่ถึงกระนั้นเขาก็เริ่มสร้างทีมให้แข็งแกร่งกลับมาทวงแชมป์ได้สองฤดูกาลติดต่อกัน ก่อนจะเสียแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ซึ่งเมื่อดูจากสถิติแล้วเขาไม่เคยห่างแชมป์ลีกเกินกว่า 1 ปีในการคุมทีม
แน่นอนว่าความล้มเหลวของกุนซือชาวสแปนิชในปีนี้จะเป็นการเพิ่มความกระหายที่จะกลับมาเป็นผู้ชนะในฤดูกาลหน้า
แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
โปรแกรมทีมชาตินั้นเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ที่มีการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาการแข่งขันอีกครั้ง โดยจะนำกลับมาแข่งกันในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์เหมือนเดิม ซึ่งจะเริ่มใช้ในการแข่งขันที่แคเมอรูน เป็นเจ้าภาพในปี 2021 ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยแข่งเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม โดยพวกเขาเริ่มใช้แผนการนี้ในการแข่งขันเมื่อปี 2019 ที่ประเทศอียิปต์ เป็นเจ้าภาพ
.jpg)
แน่นอนว่าการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโปรแกรมในครั้งนี้ส่งผลกระทบกับหลายสโมสรในลีกชั้นนำยุโรป โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างเช่น ลิเวอร์พูล เมื่อพวกเขาจะขาดสตาร์จากดินแดนกาฬทวีปทั้ง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ นาบี เกอิต้า ไปนานถึง 6 แมตช์เลยทีเดียว ซึ่งสวนทางกับ แมนฯ ซิตี้ ที่มีแข้งตัวหลักต้องบินไปทำศึกดังกล่าวคือ ริยาด มาห์เรซ ของ แอลจีเรีย เพียงคนเดียวเท่านั้น